ไทยรัฐ : เปิดฟ้าส่องโลก : วิคเตอร์มาไทยด้วย TG เดียวกับผม

นายริชาร์ด ชิชัคลี (Richard Chichakli) อดีตนายทหารข่าวกรองของสหรัฐฯ ผู้เคยกรำศึกสงครามต่อต้านซัดดัม ฮุสเซน พูดถึง ร้อยโทวิคเตอร์ บูท ว่า

"สหรัฐอเมริกาเอาปลาตัวเล็กๆ มาเป่าขึ้นเป็นปลาวาฬ"

สหรัฐฯเป่าปลาซิวให้เป็นปลาวาฬ เพื่อต้องการจะหยุดกระแสอะไรหรือเปล่า? เพราะหลังจากที่นายบูทถูกจับเมื่อ 6 มีนาคม 2551 แทบจะไม่มีนายทหารไทยคนไหนกล้ารับเชิญไปดูงานที่โรงงานผลิตอาวุธของรัสเซียอีกเลย!

อดีตผู้ตรวจการณ์สหประชาชาติคนหนึ่งให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่อง RT ของรัสเซีย เมื่อวันก่อนว่า "เราเรียกวิคเตอร์ บูท ว่าเป็น Merchant of Death ไม่ได้ แต่เราสามารถกล่าวได้ว่า วิคเตอร์ บูท อาจจะมีส่วนประมาณ 5% หรือ น้อยกว่านั้นของการค้าความตาย เพราะ 95% ของการทำงานของสายการบินของเขาเป็นการขนวัตถุพลเรือน รวมทั้งสิ่งของช่วยเหลือของสหประชาชาติ สำหรับ การขนอาวุธ เขาก็ได้ปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้างของรัฐบาลประเทศต่างๆทั้งนั้น"

ร้อยโทวิคเตอร์ บูท ลาออกจากราชการ และตั้งบริษัทขนส่งทางอากาศ เมื่อ พ.ศ.2536 หลังจากที่ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติบางคน ในรายงานของยูเอ็น ก็มีข้อความว่า "มีข้อสงสัยว่านายวิคเตอร์ บูท จะละเมิดการแซงก์ชั่นของสหประชาชาติเกี่ยวกับการนำเข้าอาวุธในสาธารณรัฐไลบีเรีย"

ข้อความในรายงานของยูเอ็น ทำให้ลูกค้าของบูทไม่ใช้บริการของแกต่อไปอีก เมื่อทนขาดทุนไม่ไหว บูทจึงปิดกิจการสายการบินขนส่งเมื่อ พ.ศ.2543 ตั้งแต่นั้นมา บูทก็ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนเก่า และเก็บตัวเงียบๆในรัสเซีย

ผู้อ่านท่านครับ 24 กุมภาพันธ์ 2551 นิติภูมิไปรัสเซียโดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 974 เลขที่นั่ง C15 และผมเดินทางกลับเมืองไทยวันศุกร์ที่ 5 มีนาคม 2551 ในบันทึกประจำวันซึ่งผมบันทึกไว้ในเว็บไซต์ www.nitipoom.com เมนู diary มีบางตอนดังนี้ "เวลา 18.24 น. ข้าพเจ้าและคณะกลุ่มบริษัทบาลานซ์ อีก 3 คน เดินทางกลับไทยโดยสายการบินไทย TG 975 ข้าพเจ้าได้ที่นั่งเลขที่ 11 A ซึ่งเป็นที่นั่งแรกของเครื่องบินลำนี้ ตอนบินจากกรุงเทพฯสู่กรุงมอสโก ใช้เวลา 9.35 ชั่วโมง แต่บินจากกรุงมอสโกกลับกรุงเทพฯ กัปตันประกาศว่าจะใช้เวลา 8.01 ชั่วโมง

ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน พลอากาศโทอภิสิทธิ์ จุลโมกข์ กรุณาเข้ามาทัก และสนทนาเรื่องเทคโนโลยีรัสเซีย จำได้ว่าเมื่อ 7 ปีที่แล้ว คือวันที่ 23 กรกฎาคม 2544 ข้าพเจ้าและพลอากาศโทท่านนี้ (สมัยนั้นยศประมาณนาวาอากาศเอก ทำงานด้านข่าวกรอง) ไปกรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงของสหภาพพม่าด้วยกัน โดยใช้ เครื่องบินทหารรุ่น ซี 130 เพื่อติดตามพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ไปพบคณะผู้นำพม่า

พลอากาศโทอภิสิทธิ์เป็นอดีตนักเรียนทุนไปศึกษาหลักสูตรนักเรียนนายเรืออากาศที่เยอรมนี สำหรับการเดินทางมาเยือนสหพันธรัฐรัสเซียของท่านในครั้งนี้ ประสงค์ก็คือ ดูเทคโนโลยีรัสเซียเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานทหารของไทย หลังจากสนทนากับพลอากาศโทอภิสิทธิ์แล้ว ข้าพเจ้านอนหลับตลอดการเดินทาง"

บันทึกประจำวันของนิติภูมิวันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2551 มีดังนี้ "เวลา 06.25 น. ข้าพเจ้าเดินทางถึงท่าอากาศยานแห่งชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 975 ขณะกำลังรอรับกระเป๋าเดินทาง พลอากาศโทอภิสิทธิ์ จุลโมกข์ รองเสนาธิการทหารอากาศ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากกรุงมอสโก ในเที่ยวบินเดียวกัน กรุณาเข้ามาสนทนาด้วยอีกครั้งหนึ่ง เรื่องสถานการณ์การก่อการร้าย

เวลา 09.00 น. ข้าพเจ้าและพนักงานบริษัทบาลานซ์ฯ ดูภาพยนตร์ที่ถ่ายทำมาจากรัสเซีย ที่ห้องประชุม 1 บ้านแด่แผ่นดิน พนักงานผู้เดินทางมาตรวจรับภาพยนตร์ได้แก่ 1. นายธรรมรศ เทพแสง ครีเอทีฟ 2. นายณวราห์ แจ้งน้ำใจ โปรดิวเซอร์ และ 3. นางสาววิลาวัลย์ ศรีวงยาง ช่างตัดต่อ

เวลา 10.00 น. ข้าพเจ้าและคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบาลานซ์ ประชุมกับคณะผู้สร้างภาพยนตร์จากสหพันธรัฐรัสเซีย ที่บ้านแด่ แผ่นดิน เรื่องการเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์โทรทัศน์ที่ประเทศไทย คณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบาลานซ์ ได้แก่ 1. ร้อยตำรวจเอกนิติภูมิ นวรัตน์ 2. นายแกรี โฮมส์ ที่ปรึกษากลุ่มบริษัทบาลานซ์ และ 3. นางสาววริศรา เกษมศรี ผู้จัดการบริษัทบาลานซ์ โนว์เล็จ ดีไซน์ จำกัด

คณะผู้สร้างภาพยนตร์ชาวรัสเซีย ได้แก่ 1. นายเซรเก วลาดิมิโรวิช บากีรอฟ ผู้อำนวยการสร้างของบริษัทนิวสตาร์มีเดียทีวี 2. นายยูริ โกลดิน โปรดิวเซอร์ของบริษัทนิวสตาร์มีเดียทีวี 3. นายอังเดร โนวิคอฟ กรรมการผู้จัดการบริษัทเตซตูร์ไทยแลนด์ จำกัด และ 4. นายคอนสแตนติน โพโกดิน กรรมการ ผู้จัดการบริษัทสบายเวิลด์ จำกัด"

ผมเพิ่งอ่านเจอในบันทึกประจำวันในเว็บไซต์ของผมในราตรีนี้ พบว่า วิคเตอร์ บูท ก็เดินทางมาถึงเมืองไทยในวันเดียวกับผม เที่ยวบินเดียวกับผม และถูกจับหลังจากลงสนามบินสุวรรณภูมิภายในเวลา 3 ชั่วโมง ที่โรงแรม โซฟิเทล สีลม

รัฐบาลอเมริกันยื่นฟ้องร้อยโทวิคเตอร์ บูท ที่ศาลเซาเทิร์น ดิสตริกต์

แห่งนิวยอร์ก และศาลแห่งนี้ก็เพิ่งออกหมายจับเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2551 นี่เอง

บูทถูกเจ้าหน้าที่ยูเอ็นรายงานมานานเกือบ 10 ปี ทำไมไม่จับ ทำไมต้องมาจับในห้วงช่วงที่กระแสอาวุธรัสเซียกำลังแรงในประเทศไทย

และประเทศอื่นในโลกบานเบอะเยอะแยะ ทำไมไม่จับ ทำไมต้องมาจับในดินแดนของประเทศไทย ผมสงสัยแค่นี้แหละ?

โชคดี วิคเตอร์ บูท

โชคดี ประเทศไทย.

นิติภูมิ นวรัตน์

http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/106373

ไทยรัฐ : เปิดฟ้าส่องโลก : วิคเตอร์ บูท (3)

นิติภูมิเขียนเปิดฟ้าส่องโลกของวันที่ 14-15 มิถุนายน 2553 เรื่อง "ให้ไทยเป็นชาติถ่ายทำหนังระดับโลก (1) และ (2)" โดยเรียกร้องให้รัฐบาลไทยมีมาตรการส่งเสริมให้ภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำในไทยได้สะดวกขึ้น

จากนั้น ผู้ใหญ่หลายท่านขอข้อมูลจากนิติภูมิในฐานะประธานบริษัทประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย ผมให้ข้อมูลทุกประเภทอย่างโปร่งใส แจกแจงแม้แต่รายได้ที่ SMG Moviel Limited ของรัสเซียโอนเงินประมาณเดือนละ 12 ล้านบาทมาให้ โดยชี้แจงแสดงให้เห็นว่าเงินจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์เหล่านี้เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจของโรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้า รถเช่า ฯลฯ ของไทยมากขนาดไหน คนไทยกว่า 100 ชีวิต มีรายได้ติดต่อกันยาวนานถึง 9 เดือน ผู้อ่านท่านที่อยากเห็นภาพความสุขของคนไทยที่ได้ทำงานในวงการภาพยนตร์กับเพื่อนร่วมวงการชาวต่างชาติ โปรดเข้าไปที่เว็บไซต์ nitipoom.com เมนูภาพกิจกรรมนะครับ

ตอนสายของอังคารวันที่ 24 สิงหาคม 2553 ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งจากท่านผู้ใหญ่ที่เคารพว่า คณะรัฐมนตรีมีมติให้เว้นภาษีนักแสดงต่างชาติ ส่วนภาษีอื่นกรมสรรพากรขอนำกลับไปศึกษาเป็นเวลาอีก 1 เดือน ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ของไทย ก็ยินดีจะเปิดช่องตรวจขาเข้าโซนกลางของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสำหรับคณะที่จะเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ก็มีข่าวดีว่าจะส่งเสริมบริษัทที่นำอุปกรณ์จากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย ฯลฯ

ผู้คนในวงการที่ทำงานกับภาพยนตร์ต่างประเทศโทรศัพท์มาขอบใจนิติภูมิ ผมบอกว่า อย่ามาขอบใจผมเลย ต้องไปขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ข้าราชการกองกิจการภาพยนตร์ สำนักงาน พัฒนาการท่องเที่ยว ฯลฯ ที่สนับสนุนเพื่อประโยชน์ของประเทศ

ผมเชื่อว่าในอนาคต รัฐบาลไทยสามารถสร้าง Siamywood เพื่อให้ไปตระหง่านใกล้กับ Hollywood Bollywood Kollywood Tollywood และ Mollywood โดยแท้ที่จริงศักยภาพไทยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์มีไม่แพ้ของประเทศอื่น เพียงแต่รัฐบาลต้องมีวิสั้น เอ๊ย วิชั่น ด้านนี้ให้มากขึ้นหน่อยเท่านั้น

ขณะที่ผู้อ่านท่านผู้เจริญจับไทยรัฐฉบับวันนี้ นิติภูมิกำลังระเห็จเตร็ดเตร่ อยู่ที่เช็ก ในห้วงช่วง 9 วันนี้ ผมมาอุจจาระปัสสาวะที่เยอรมนี ออสเตรีย ฮังการี และเช็ก ขณะที่ก็ยังมีผู้อ่านสนใจความเป็นไปในคดีของนายบูทเป็นอย่างมาก

5 กรกฎาคม 2550 เป็นวันครบรอบความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย 110 ปี และในช่วงนี้นี่เอง ที่ประชาชนคนไทยเริ่มให้ความสนใจในวัฒนธรรมประเพณีของรัสเซียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครบอลชอยแห่งกรุงมอสโก และการแสดงของอดีตโรงเรียนศิลปกรรมหลวง คณะมาริอินสกี้แห่งนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 สังคมไทยก็ตระหนักถึงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตจากสหพันธรัฐรัสเซีย มีการกระดิกพลิกตัวของบรรดานายทหารทุกเหล่าทัพ เดินทางไปดูโรงงานผลิตอาวุธของรัสเซียกันยกใหญ่

อเมริกาเป็นประเทศหนึ่งซึ่งมีรายได้จากการขายอาวุธ จากประวัติศาสตร์ คณะผู้นำของชาติบ้านเมืองใดที่เปลี่ยนแหล่งซื้ออาวุธจากโรงงานอเมริกัน ไปซื้อของประเทศอื่น คณะผู้นำนั้นมักจะโดนรัฐประหาร ต้องเปลี่ยนรัฐบาลทุกรายไป

ผมมีลางสังหรณ์ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2550 แล้วล่ะครับว่า อนาคต น่าจะมีเหตุการณ์อะไรไม่ดีซักอย่าง สองอย่างเกิดขึ้นกับประเทศไทย

1-15 มกราคม 2551 นิติภูมิไปพักที่หอของนายคุณนิติ ซึ่งเป็นบุตรชายคนที่ 2 ของผม กลางวัน เจ้าลูกชายไปเรียนภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวในกรุงปักกิ่ง ผมไม่มีอะไรทำก็เข้าไปเสิร์ชข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทั้งวัน พบการกระดิกพลิกตัวของวงการค้าอาวุธที่น่าสนใจหลายอย่าง

ในห้วง 4 เดือนแรกของ พ.ศ.2551 ผมตั้งความหวังไว้ว่าจะต้องไปเยือน 4 เมืองหลวงของมหาอำนาจชาติโลก ปลายเดือนมกราคม 2551 ผมและบุตรชายคนที่ 1 คือนายเนติภูมิ จึงไปเยือนกรุงโตเกียว ผู้ใหญ่ในคณะที่เดินทางไปด้วยกันนั้น บั้นปลายท้ายต่อมา เป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมถึง 2 ท่าน ส่วนอีกท่านหนึ่งตอนไปด้วยกันเป็น ผวจ.ชุมพร ต่อมาท่านได้เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย (นายมานิต วัฒนเสน) อีกท่านหนึ่งเป็น ผอ.สำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กลับมาเมืองไทยได้ไม่นาน ก็เป็นเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล) อีกท่านหนึ่งนั้น ท่านเป็นปลัดกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว

ในห้วงช่วงที่อยู่ญี่ปุ่น ท่านผู้ใหญ่หลายท่านสอบถามตามข่าวถึงคุณภาพของอาวุธและการอุตสาหกรรมรัสเซียหลายครั้ง ผมจึงจับความสนใจในขณะนั้นได้ว่า สังคมไทยสนใจในเรื่องอาวุธรัสเซียจริงๆ มิใช่สนใจเพียงตามกระแส

กลับจากญี่ปุ่น ผมไปรัสเซีย พักไม่กี่วัน ผมก็ไปอินเดีย

ผู้อ่านท่านที่อยากทราบว่าเรื่องนี้ ว่า (อาจจะ) เกี่ยวดองหนองยุ่งกับคดีนายวิคเตอร์ บูท อย่างไร? กรุณาซื้อไทยรัฐอ่านต่อได้ในฉบับวันศุกร์ครับ สำหรับคืนนี้ นิทราราตรีสวัสดิ์ ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วละครับ สวัสดีครับ.

นิติภูมิ นวรัตน์

http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/106104

ไทยรัฐ : เปิดฟ้าส่องโลก : วิคเตอร์ บูท (2)

ใครที่คิดว่าอเมริกาจะช่วยตนและพวกให้พ้นข้อหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยการเอาคดีความบางเรื่องเข้าแลก ก็อย่าหวังว่าอเมริกาจะจริงใจนะครับ ชีวิตมนุษย์จำนวน 91 คน ที่ต้องตายวายชีวันจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ในอนาคตอาจนำความยุ่งยากมาสู่ผู้คนบางกลุ่มด้วยการจะต้องถูกฟ้องร้องของคดีสังหารหมู่ คดีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คดีทำร้ายพลเรือน ฯลฯ

เรื่องการรับโทษทัณฑ์เป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่มีอะไรจริงแท้แน่นอน แต่ข่าวที่จะเป็นของแท้แน่ชัดก็คือ บริษัทไทยที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับเรื่องท่องเที่ยวเตรียมรับความหายนะได้ วันที่ผมเขียนต้นฉบับอยู่นี้ มีข่าวจากกรุงมอสโก ความว่า ส.ส.ซิรินอฟสกี รองประธานสภาดูมาของรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาบัณฑิตจากสถาบันเอเชียและแอฟริกาศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยมอสโก ประกาศว่าจะบอยคอตการท่องเที่ยวไทย คนไทยครอบครัวไหนเคยมีอาหารอิ่มท้องเพราะนักท่องเที่ยวรัสเซียมาใช้บริการ ก็เตรียมทำใจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมทั้งต้องลองออกไปหาอาชีพเสริมทำ

ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อ 11 สิงหาคม 2552 ปฏิเสธคำร้องของสหรัฐอเมริกาในการส่งนายวิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายข้ามแดน โดยให้เหตุผลว่า ลักษณะนี้เป็นคดีการเมือง และเป็นคดีที่ศาลไทยพิจารณาไม่ได้ เพราะข้อกล่าวหาของสหรัฐอเมริกาไม่ตรงกับมาตราใดๆ ของศาลไทยเลย

วันเดียวกันนั้น พนักงานอัยการอุทธรณ์คำสั่งและคำพิพากษาศาลอาญา ศาลอุทธรณ์รับไว้เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2552 และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขังนายวิคเตอร์ บูท ไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ เมื่อ 24 พฤษภาคม 2553

แต่สังคมภายนอกรู้คำพิพากษาพร้อมกันทั่วโลกเมื่อ 20 สิงหาคม 2553 แสดงว่าคำพิพากษามีก่อนหน้าที่ประกาศจริงถึง 2 เดือน 27 วัน

ในห้วงช่วง 3 เดือนที่ว่านี้ นายกษิต ภิรมย์ เดินทางไปกรุงมอสโก เพื่อคุยกับกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของนายบูทด้วย แถมนายกษิตเองก็พบกับนายเซรเกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียที่กรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนาม เมื่อออกมาจากห้องสนทนา นายลาฟรอฟ บอกกับคนที่นั่งคอยอยู่หน้าห้องว่า "รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเริ่มพูดถึงกรณีของนายบูทก่อน..."

เรื่องที่นายกษิตพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้น เป็นความลับ ไม่มีใครทราบ แต่ผมก็ไม่คิดนะครับว่านายกษิตจะแย่ขนาดเอาเรื่องอิสรภาพนายวิคเตอร์ บูท ไปแลกกับการขอให้รัสเซียส่งพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาให้รัฐบาลไทยลงโทษ

พันตำรวจโท ดร.ทักษิณเป็นบุคคลที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายรัสเซียรักมาก คบกันเป็นเพื่อนตาย นิติภูมิรู้จักคนรัสเซียดี ผมจึงมั่นใจว่าคนรัสเซียไม่ขายเพื่อน

ยิ่งถ้าหากนายกษิต ภิรมย์ รู้ผลคำพิพากษาล่วงหน้า ว่าศาลอุทธรณ์ พิพากษาแล้วว่าให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท ไปให้สหรัฐอเมริกา ทว่าในระหว่างนั้น นายกษิตยังกล้าไปเจรจาเรื่องแลกตัวนายวิคเตอร์ บูท กับพันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ผมว่าอันนี้ก็เหมือนรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยไปหลอกลวงรัฐบาลรัสเซีย

คนบ้านนอกคอกนา ตระกูลแม่ค้าขายขนมในตลาดสดและทำไร่ไถนาหาปลาในทะเลอย่างนิติภูมิ ก็ไม่เชื่อหรอกครับ ว่าผู้ดีอย่างนายกษิตจะทำ

แต่ถ้าทำ ก็ต้องถือว่านายกษิตเป็นคนแย่มาก

และก็สมควรที่คณะรัฐบาล และสมาชิกรัฐสภาแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย และประชาชนคนรัสเซียจะโกรธมาก

รัสเซียทำทุกอย่างเพื่อให้นายบูทมีอิสรภาพ และช่วยหาหลักฐานมามอบให้ฝ่ายสงสัยหลายครั้ง เพื่อยืนยันว่านายบูทเลิกธุรกิจระหว่างประเทศทั้งหมด รวมทั้งธุรกิจการบินด้วยตั้งแต่ พ.ศ.2544 มีหลักฐานจาก ตม.รัสเซียว่า ระหว่าง พ.ศ.2544-2551 นายวิคเตอร์ บูท เคยเดินทางไปจีน 1 ครั้ง มอนเตเนโกร 1 ครั้ง อาร์เมเนีย 1 ครั้ง และมาเมืองไทย 1 ครั้ง โดยเหยียบแผ่นดินไทยได้เพียง 3 ชั่วโมงก็ถูกจับ

ถ้าบูทเป็นพ่อค้าอาวุธตัวจริงก็น่าจะรวยนะครับ สมบัติพัสถานของคนค้าอาวุธบ้าอะไร ทำไมมีน้อยจัง? มีบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ขนาดไม่กี่ตารางวาที่อยู่ห่างจากรุงมอสโกไปตั้งเกือบครึ่งร้อยกิโลเมตร สมบัติอีกอย่างก็เป็นคอนโดมิเนียมขนาดเล็ก 2 ห้องนอน และมีหุ้นเล็กน้อยในบริษัทผลิตวัสดุก่อสร้างสำหรับตลาดรัสเซีย

ตั้งแต่หัวหน้าครอบครัวติดคุกไทย ครอบครัวของบูทต้องวิ่งหาสตางค์มาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี จนขณะนี้มีแต่หนี้รุงรัง

นางอัลลา ภรรยาของนายบุช ไม่เคยออกนอกประเทศไทยเลยมามากกว่า 2 ปีแล้ว เธอเช่าห้องเล็กๆ ขนาด 40 ตารางเมตรแถวเรือนจำ เพื่อซุกหัวนอน และเพื่อสามารถเดินทางไปเยี่ยมและนำอาหารไปให้สามีได้ทุกวัน วันละ 15 นาที

ลูกสาววัย 16 ปีของวิคเตอร์ บูท และนางอัลลา ต้องย้ายไปขออาศัยอยู่บ้านตากับยายในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

พ่อค้าอาวุธบ้าอภิพญามหาเศรษฐีอะไรกันครับ ต้องยืมเงินคนไทยเพื่อนำไปใช้จ่ายประคองชีวิตให้ดำรงคงอยู่ได้ ยืมทีละไม่กี่หมื่นบาทซะด้วย

พวกเอ็งจะบ้านิยายที่ไอ้ดักลาส ฟาราห์ โม้กันไปถึงไหน?

นิติภูมิ นวรัตน์

http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/105835

ไทยรัฐ : เปิดฟ้าส่องโลก : วิคเตอร์ บูท (1)

นิติภูมิเขียนหนังสือในราตรีด้วยความมึนนิดหน่อย เพราะวันนี้เป็นวันที่ผมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Island of the unwanted ได้ 70% ราตรีนี้ที่สวนนงนุชพัทยาจึงมีงานเลี้ยงที่เป็นชาวรัสเซีย ยูเครน และชาวไทยมากกว่า 150 คน มาร่วมฉลองแสดงความยินดี ท่านผู้อ่านก็คงจะนึกออกนะครับ ว่าในฐานะผู้บริหารสูงสุดของบริษัท บาลานซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอนเน็คชั่นส์ จำกัด นั้น ผมต้องชนแก้วมากมายนับร้อยแก้ว ทุกแก้วเป็นว้อดก้าทั้งนั้น

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2553 สื่อมวลชนไทยหลายฉบับรายงานข่าวเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เรื่องพระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน ว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสหรัฐอเมริกา ควบคุมหรือขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ท่านทั้งหลายคงทราบว่า จำเลยในคดีนี้คือ นายวิคเตอร์ บูท หรือบอริส หรือวิคเตอร์ บัท หรือวิคเตอร์ บูคาลิน หรือวาดิม มาโควิช อมินอฟ หลังจากศาลแห่งราชอาณาจักรไทยได้ประกาศคำพิพากษาอย่างเป็นทางการ ส่วนมากสถานีโทรทัศน์ไทยจะแสดงภาพนายวิคเตอร์ บูท ที่มีสภาพจ๋อยอยู่ในคุกไทย บางช่องเปิดเผยข้อมูลว่า เขาน้ำหนักลดจาก 120 กิโลกรัม เหลือเพียง 70 กิโลกรัม ผอมกว่านิติภูมิในขณะนี้เสียอีก บางสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียเผยภาพนายวิคเตอร์ บูท จูบลาเมีย คือนางอัลลา บูท ก่อนนายบูทจะเดินไปขึ้นรถเรือนจำเพื่อกลับไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเป็นครั้งสุดท้าย

ภาพนี้ ประชาชนคนรัสเซีย 148 ล้านคน และประชาชนคนอีกเกือบถึงหนึ่งพันล้านคนทั่วโลกเห็นแล้วก็ร้องไห้ สถานีโทรทัศน์หลายแห่งของรัสเซีย แปลข่าวจากผู้ประกาศข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยหลายช่อง เช่น โฆษกช่อง 5 บอกว่า "รู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้ก่อการร้ายนานาชาติ อดีตสายลับเคจีบี พ่อค้าอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก นายวิคเตอร์ บูท ถูกส่งกลับไปยังศาลในสหรัฐอเมริกา" สถานีโทรทัศน์ของไทยหลายช่องเอาภาพเครื่องบิน ILYUSHIN-76 ทะเบียนของสาธารณรัฐจอร์เจีย ซึ่งมีนักบินเป็นชาวคาซัคสถานที่ถูกจับในสนามบินดอนเมือง ในระหว่างการขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมาแวะพักที่ประเทศไทย เพื่อจะให้ผู้ชมได้เข้าใจว่า เครื่องบินดังกล่าวเกี่ยวดองหนองยุ่งกับนายวิคเตอร์ บูท คนรัสเซียทั้งประเทศ 148 ล้านคนติดตามข่าวนี้อย่างละเอียดและก็เริ่มสงสัยว่า ทำไมสถานีโทรทัศน์ 4 ช่องของประเทศไทย จึงเริ่มทำการโจมตีนายวิคเตอร์ บูท และสหพันธรัฐรัสเซียเหมือนกัน ใช้คำพูดเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน คนรัสเซียและรัฐบาลรัสเซียคิดตรงกันว่า นี่เป็นเรื่องมือที่มองไม่เห็น ที่ฝากข่าวนี้ไปให้สถานีโทรทัศน์ของราชอาณาจักรไทย แต่มือก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ไอ้คนสั่งนั้นลืมใช้สมอง เพราะคิดว่าผู้ชมชาวไทยนั้นโง่ โดยไม่รู้ว่านายวิคเตอร์ บูท ติดคุกในประเทศไทยมานาน 2 ปีครึ่งแล้ว และจะไปจัดการกับเครื่องบินขนอาวุธจากเกาหลีเหนือได้อย่างไร การติดคุกที่แดน 8 ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่มีทางเลยที่ผู้ติดคุกจะบงการเพื่อให้เครื่องบินจากเกาหลีเหนือขนอาวุธมายังประเทศไทย

ผมได้ทราบคำยืนยันจากปากของนายวิคเตอร์ บูท ว่า ในห้วงช่วงสงกรานต์ มีผู้มาพบนายวิคเตอร์ บูท ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และบอกว่าถ้ายูจะรอดปลอดภัย ยูจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ expert ไปให้การในศาลว่า พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ทำ operation ดำเนินการทั้งหมดทั้งปวงในการขนอาวุธจากเกาหลี เหนือมายังประเทศไทย และอาวุธดังกล่าวจะมาใช้กับพวกเสื้อแดง

นายวิคเตอร์ บูท แกก็งงว่าอะไรคือเสื้อแดง แกก็ปฏิเสธ เพราะแกไม่ต้องการมาเกี่ยวดองหนองยุ่งกับการเมืองในประเทศอื่น

การรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ของประเทศไทยถูกนำไปรายงานซ้ำอีกทีในสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย ทุกคนหัวเราะเยาะ พวกผู้ประกาศโง่ทั้งหลายที่บอกว่า นายวิคเตอร์ บูท เป็นสายลับเคจีบี ผู้ประกาศข่าวบางคนทะลึ่งประกาศว่า นายวิคเตอร์ บูท เป็นจำเลยของคดีการค้าอาวุธ ทั้งๆที่ตามความเป็นจริง นายวิคเตอร์ บูท ไม่เคยได้รับการตัดสินลงโทษในศาลใดๆ ในโลกนี้ และแม้แต่ตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกาเองก็ยังถือว่า นายวิคเตอร์ บูท เป็นแค่ผู้ต้องหา มิใช่นักโทษ

นายดักลัส ฟาราห์ ไอ้คนแรกในโลกนี้ที่หากินกับการเขียนหนังสือนิยายเรื่อง Merchant of Death มันยังเขียนในหนังสือของมันเลยว่า นายวิคเตอร์ บูท นั้นเป็นแค่ล่ามแปลภาษาของทหาร มียศกระจอกงอกง่อยเพียงแค่ร้อยโท ก่อนจะลาออกจากทหารมาทำธุรกิจการขนส่งทางอากาศ

นิติภูมิผู้อ่านหนังสือเรื่อง Merchant of Death ขอเรียนกับผู้อ่านท่านที่เคารพว่า อันนี้เป็นเพียงความเป็นจริงสิ่งเดียวในหนังสือดังกล่าว นอกนั้นมันแต่งขึ้นมาทั้งหมด แต่งเป็นนิยายให้ดูตื่นเต้น ให้มันขายได้ แต่หนังสือบ้านี่บั้นปลายท้ายต่อมา ดันทะลึ่งขายดี ก็เลยสร้างภาพพจน์ให้นายวิคเตอร์ บูท เป็นผู้ร้ายระดับโลก

ผู้อ่านท่านผู้เจริญ พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ วันนี้นิทราราตรีสวัสดิ์ ลาไปก่อนครับ ลาไปแล้วนะครับ.

นิติภูมิ นวรัตน์

http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:jCapG-xFsHgJ:www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/105603+http://www.thairath.co.th/column/oversea/worldsky/105603&cd=1&hl=th&ct=clnk&gl=th