จัดหนัก จัดเต็ม เอาไปเลยค่ะ ธาริต

"ธาริต เพ็งดิษฐ์"เป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ.)ที่ดังเป็นพลุแตก ตกเป็นข่าวหน้า 1 ทุกวัน ไม่ว่าจะข่าวดีหรือข่าวร้าย

ล่าสุด มือ(ไม่)ดี ส่งจดหมาย มาขู่ฆ่า จนเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า ขวัญเสีย เพราะจดหมายในซองสีน้ำตาล ประทับตราครุฑ เขียนว่า

" พวกกูทั้งสายลับ อดีตสายลับ สายข่าว ทหาร ตำรวจฯช่วงงานศพอาจารย์เสธ. แดง พวกกูทั้งหลายได้สาบานว่า จะขอทำทุกอย่างเพื่อให้มึงและพวกได้ตายตามเสธแดงอย่างน่าเวทนาเป็นที่สุดเริ่มจากคนที่พวกมึงรักก่อน ส่วนมึงเมื่อไหร่ก็ได้ 10 ปีก็ยังไม่มีคำว่าสาย หากคิดจะแก้แค้นและเอาคืน

วิธีฆ่ามึงและพวกนั้นมีมากมายหลายแบบ หากมึงตายโหงขณะมีตำแหน่งติดตัวยิ่งดีมาก ถึงแม้พวกกูจะถูกจับได้ก็ไม่เป็นไร มันจะเป็นประวัติศาสตร์อันล้ำค่าสำหรับการสังหารคนเลวๆอย่างมึง วันนี้กูอาจจะผิด พรุ่งนี้ก็คงถูกเองแหละ สำหรับพวกกูวันนี้อาจเป็นฆาตกร(ฆ่ามึง) แต่วันหน้าคือวีรบุรุษ (แห่งชาติ)โว้ย"


โดนขู่ฆ่าแบบเถื่อนๆ ดิบๆ อธิบดี ดีเอสไอ. จึงเรียกใช้บริการหน่วยอารักขาของตำรวจและทหาร ตลอด 24 ชั่วโมง

ทว่า ข่าวจดหมายขู่ฆ่า กลบข่าวเช็คปริศนา 1.5 แสนบาท ที่สั่งจ่ายจากเฮียเม้ง โอนเข้าบัญชี "วรรษมล" หลังบ้านของอธิบดีดีเอสไอ. ไปในทันที

แม้ว่า สังคมยังไม่ได้รับความกระจ่างว่า เช็ค 1.5 แสนเป็นค่าตอบแทนอะไรกันแน่ ระหว่าง "ค่าวิ่งเต้นเลี่ยงภาษีของเฮียเม้ง" หรือ "เงินค่าบริการคำปรึกษาทางกฎหมาย" ?

ยังไม่นับ ประเด็นฝากจาก"เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ "ส.ว.จอมแฉ ที่เสียบออกมาอย่างรู้จังหวะ ทวงถามว่า ค่าบริการที่ว่า เสียภาษี แล้วหรือยัง ?

นี่คือ "อธิบดีรายวัน"ตัวจริง เสียงจริง หากอยากรู้เส้นทางวิบากกรรมของอธิบดีคนดัง " มติชนออนไลน์"จัดให้แล้ว ณ บัดนี้

"ธาริต เพ็งดิษฐ์" เป็นเด็กเรียนดีจากชัยนาท จังหวัดเดียวกับ"มีชัย ฤชุพันธุ์" มือกฎหมายใหญ่ ธาริต สำเร็จนิติศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยม จากม.ธุรกิจบัณฑิต (ปี 2525) 2 ปีต่อมาสอบได้เป็นเนติบัณฑิต และคว้าปริญญาโททางกฎหมายจุฬาลงกรณ์ เป็นลูกศิษย์สุดเลิฟของ"อาจารย์ป้อม" ดร.วีระพงษ์ บุญโญภาส เจ้าพ่อกฎหมายฟอกเงินแห่งจุฬาฯ

ในวงการกฎหมาย ต้องถือว่า "ธาริต" เป็นนักกฎหมายที่ฉลาดและเก่งมาก ข้อเท็จจริงส่วนนี้ไม่มีใครปฎิเสธ ชีวิตการทำงานเริ่มต้นที่ตำแหน่งอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์

จากนั้นก็สอบเป็นอัยการในปี 2532 ได้พบกับ "วรรษมล" ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา และกลายเป็นตำนานรัก จนมาถึงทุกวันนี้

และที่ปากช่องนี่เองที่"ธาริต-วรรษมล" ได้โอกาสซื้อที่ดินแปลงใหญ่มาไว้ในครอบครองที่จะได้กล่าวต่อไป

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ"ธาริต" เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อฝีมือของอัยการหนุ่มเข้าตา"หมอมิ้ง" นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช รองนายกฯในขณะนั้น จึงได้ถูกชวนไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาให้แก่" เดอะกิ้น" พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษาใหญ่ของนายกฯทักษิณ

ในช่วงรัฐบาลทักษิณ "ธาริต" เป็นหนึ่งในคณะทำงานยกร่างกฎหมายกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเห็นได้ว่า "ธาริต" อยู่กับ พรรคไทยรักไทย และทักษิณ ได้อย่างดีเยี่ยม

จนถึงรัฐบาล"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" ธาริต ย้ายจากสำนักงานอัยการสูงสุด มานั่งเป็น รองอธิบดีดีเอสไอ. เป็นความรุ่งเรืองในวิชาชีพที่เพื่อนรุ่นเดียวกัน ตามไม่ทัน

แต่ในห้วงเวลาที่ พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ นั่งเป็นอธิบดี ดีเอสไอ. และตำรวจพาเหรดเข้ามายึด ดีเอสไอ. "ธาริต" ได้แวปออกไปร่วมร่างกฎหมายและร่วมจัดตั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (คณะกรรมการ ป.ป.ท.) และที่สำคัญ เขาได้นั่งเป็น เลขาธิการ ป.ป.ท. ในวันที่ " พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง"นั่งเป็น อธิบดี ดีเอสไอ.

เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว พรรคประชาธิปัตย์ ผงาดขึ้นสู่อำนาจทางการเมือง "เดอะตุ๋ย " พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค นั่งเป็นรมว.กระทรวงยุติธรรม

"ธาริต" ในตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ แสดงฝีมือโค่นยักษ์ใหญ่ ล้มตึง เมื่อเขาออกมาแฉว่า วิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กบข. ไม่โปร่งใส เอาเงินกองทุนหลายหมื่นล้านไปลงทุนบนความเสี่ยง ผลก็คือ วิสิฐ จบเห่ "ธาริต" ขึ้นหม้อ กลายเป็นฮีโร่ ในสายตาข้าราชการทั่วประเทศ

กลางตุลาคม 2552 ธาริต เพ็งดิษฐ์ ผงาดขึ้นเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แทนพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม (มติครม.29 ก.ย.2552) แล้ว พลันเสียง วิจารณ์ก็กระหึ่มไปทั้ง ดีเอสไอ.ว่า ธาริต เป็นสายตรงจาก"อภิสิทธิ์ -สุเทพ เทือกสุบรรณ" ?

แต่ถ้ามองโลกให้เป็นจริง "ธาริต" ทำงานให้กับนาย"ทุกคน" นายจะสีอะไร จะสีเหลือง สีแดง หรือ สีม่วง ไม่ใช่เรื่องของคนชื่อ"ธาริต"

คนที่เคยร่วมงานกับ"ธาริต" บอกว่า ใครได้ ธาริต เป็นลูกน้อง " โคตรโชคดี" เพราะ เขาเป็นคนที่เก่ง ฉลาด ขยัน และทุ่มเท จนตัวตายเพื่อนาย !!!

ฉะนั้น ใครที่บอกว่า ธาริต รับใช้ ประชาธิปัตย์ ต้องพูดใหม่ให้ถูกว่า ธาริต รับใช้ "นาย" มากกว่า รับใช้พรรค

ตัวอย่างของ"มือทำงาน"ที่อุทิศตัวเพื่อนาย ที่ถูกบันทึกในตำนานการเมืองคือ "นิพัทธ์ พุกกะณะสุต"คนโตแห่งกระทรวงการคลัง แมวเก้าชีวิตที่อยู่ได้ทุกรัฐบาล ชั่วโมงนี้ "ธาริต" จะเป็นแมว เก้าชีวิตหรือไม่ ต้องจับตามองกันต่อไปยาวๆ

"ธาริต"เป็นนักกฎหมายที่มีต้นทุนสูง เพราะมีคอนเนกชั่นที่ดีกับทุกพรรคและทุกคน ในพรรคประชาธิปัตย์ "ธาริต" สนิทกับกูรูใหญ่ปชป. "มารุต บุนนาค" ในวงการกฎหมาย "ธาริต" เป็นศิษย์เอกของ"ศ.ดร.คณิต ณ นคร" เพราะเคยนั่งหน้าห้องอัยการสุงสุด จนรู้ใจนายเป็นอย่างดี

และที่สำคัญ"ธาริต" รู้ธรรมชาติและนิสัยถาวรของ"นักข่าว" ได้ทะลุว่า นักข่าวต้องการอะไร และนักข่าวอยากรู้อะไร ?

ผลงานที่"ธาริต" ทำให้ อภิสิทธิ์-เทพเทือก มีประสิทธิภาพสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น การตัดท่อน้ำเลี้ยงเสื้อแดง อย่างเบ็ดเสร็จ

จะว่าไป เทคนิค ตัดท่อน้ำเสี้ยง ของ"ธาริต" มาจาก อาจารย์ป้อม ดร.วีระพงษ์ บุญโญภาส ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จุฬาฯ และกูรูกฎหมายฟอกเงิน นั่นเอง

การแทงความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีทีพีไอ.ไซฟ่อนเงิน ของดีเอสไอ. ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เรื่องใหญ่ๆ ร้อนๆ กว่านี้ ดีเอสไอ.ก็ทำมาแล้ว

ผลงานรายวันของ"ธาริต" ทำให้ ศัตรูของ"อภิสิทธิ์-เทพเทือก"เดือดดาล และ แค้นเคือง แบบสุดถึงขั้นขู่ปลดถ้าได้เป็นรัฐบาล

ความพยายามที่จะโค่น"ธาริต" มาจากทั่วสารทิศ ปมประเด็นเมียกับปริศนาเงิน 1.5 แสน เป็นเพียง น้ำจิ้ม จากนี้ไป จะมีการขุดประเด็นส่วนตัวของ"ธาริตและเมีย" ออกมาอีกเป็นซีรีย์

เร็ว ๆ วันนี้ อาจมีเรื่องที่ดินในนิคมปากช่องที่เขารวบรวมไว้ได้เป็นแปลงใหญ่ในราคาถูก และกำลังจะขายออกในราคาหลายร้อยล้าน ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่รอการเปิดโปงโดยศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่เสียประโยชน์

แต่ถามว่า "ธาริต" กลัวไหมกับเรื่องพรรค์นี้ คำตอบคือ ...ไม่ยี่หระ(ว่ะ)

" 3 หมอดูชื่อดัง" ฟันธง ว่า ดวงชะตา ของธาริต ดีมาก จะรุ่งโรจน์และเจริญก้าวหน้า ไปอีกนาน เหตุนี้เองทำให้ ธาริต ฮึดสู้ไม่ถอย

ปัญหาที่กระทบประโยชน์ส่วนรวม มีเพียงประการเดียวคือ มาตรฐานวิชาชีพของ ดีเอสไอ. นั่นเองที่จะเสื่อมลง

"ธาริต" อาจเจริญก้าวหน้ามีอนาคต แต่ดีเอสไอ. จะค่อยๆ เสื่อมความนิยม และความน่าเชื่อถือ

ข้อมูลที่พิสูจน์สมมติฐานนี้ก็คือ คดีที่ส่งออกจาก ดีเอสไอ. ส่วนใหญ่ ไปไม่ถึงศาล เพราะสำนวนอ่อน อัยการไม่สั่งฟ้อง

นั่นอาจเป็นดัชนีชี้วัด คุณภาพของสำนวนในแฟ้ม ดีเอสไอ. จากยุคก่อตั้งจนถึงยุค"ธาริต"

"ธาริต" เองก็รู้ปัญหานี้ดี เพราะเขาเป็นคนยกร่างกฎหมายดีเอสไอ.มากับมือ เพียงแต่ว่า เขาจะมีเวลา คิดทบทวนปัญหานี้หรือไม่ ?


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1280830982&grpid=&catid=02